ทองคำเริ่มทรงตัวหลังถูกเทหนัก BANK of America เชื่อยังแตะ $2,000 ได้

1,140

สัญญาราคาทองคำเริ่มนิ่ง หลังร่วงติดต่อกัน 5 วัน เหตุบอนด์ยีลด์ลด และดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่ BANK of America ยังมั่นใจราคาทองคำ ยังไปแตะ $2000 ได้ แม้จะได้รับความสนใจจากนกลงทุนน้อยลง   

การซื้อ-ขาย สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เมื่อคืนนี้ปิดตลาดบวกเป็นครั้งแรก หลังจากลดลงมา 5 วันติดต่อกัน แม้จะ บวกเพียง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.12% โดยปิดที่ 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เมื่อคืนนี้ ร่วงลงสู่ระดับ 1.284% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.065% รวมถึงสัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเมื่อคืนนี้แตะระดับ 90.5966 ลดลง 0.39% ฃ

ส่วนตัวเลขทาง ศก.สหรัฐที่ประกาศออกมาคืนนี้ก็แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 861,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงสุดในรอบ 1 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 773,000 ราย

อย่างไรก็ดี จากรายงานของ Bank of America ยังมองว่า ในปีนี้ราคาทองคำยังแตะ 2000 ดอลลาร์ได้ แม้ว่าในสัปดาห์นี้ตลาดทองคำได้เผชิญกับความท้าทายหลังมีการเทขายอย่างหนัก เนื่องจากความต้องการทางกายภาพที่ลดลง และดูเหมือนว่านักลงทุนจะให้ความสนใจน้อยลงก็ตาม แต่ทีมวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร ยังมั่นใจว่าในปีนี้ราคาทองคำเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2,063 ดอลลาร์

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีราคาโกลด์สปอต ลดลงไปประมาณ 6% มายืนต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ หลังจากปีที่ผ่านมา ราคาทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 22% และเป็นครั้งแรกที่ราคาทองคำขึ้นไปแตะสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนในเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากการระบาดของ covid -19 และจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ

ไปดูดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อคืนนี้ปิดที่ 31,493.34 จุด ลดลง 119.68 จุด หรือ -0.38% โดยปัจจัยที่ทำให้ดาวโจนส์ร่วงแรง นอกเหนือจากตัวเลขการส่างรายงานสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นแล้ว ยังมาจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ส่งสัญญาณถึงภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ หลัง ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555. นอกจากนี้ ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1%

นักวิเคราะห์จากบริษัทคอมมอนเวลธ์ ไฟแนนเชียล เน็ตเวิร์ก ในเมืองบอสตันของสหรัฐกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วอาจจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ เฟด ยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูง หลังจากที่หุ้นเหล่านี้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา

CR : traderider.com

CR : ryt9.com

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.