GoldFocus: ราคาทองคำแรงไม่พอ กลับไปพักฐานแถว $1777 สัปดาห์หน้ามาลุ้นกันต่อจะทะลุ $1800 ได้หรือไม่

1,297

GoldFocus: จับทุกการเคลื่อนไหวในตลาดทองคำ ประจำวันที่ 24 เม.ย. 64

ราคาทองคำวานนี้ได้ขึ้นไปทดสอบระดับ $1,796 อีกรอบ แต่ยังไปไม่ถึง $1800 ก่อนจะถูกเทลงมาแตะ 1,770 ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงรีบาวด์ขยับขึ้นมาเคลื่อนไหวไซด์เวย์แนว 1,778 ดอลลาร์จนถึงช่วงค่ำเช้าวันนี้ (ดูตารางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ..) และเมื่อมองในภาพรวมราคาทองคำของสัปดาห์นี้ ยังถือว่าไม่เลวร้าย เพราะหลังจากที่เปิดตลาดในช่วงต้นสัปดาห์ที่ระดับ 1,776 ดอลลาร์ ราคาได้ขึ้นไปทดสอบแนว 1,797 ดอลลาร์ถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ผ่านและถูกเทร่วงงหนักแต่ในช่วง 3-4 วันหลังจะเห็นได้ว่าเมื่อราคาร่วงลงมาแตะแนว 1,775-6 ดอลลาร์ ก็สามารถรับไว้ได้อยู่

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ ภาพรวมทั้งสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้นบาทละ 200 บาท โดยราคารับซื้อเมื่อวันที่ 17 เม.ย. อยู่ที่บาทละ 26,150 ขายออกอยู่ที่ บาทละ 26,250 บาท ส่วนในเช้าวันนี้  24 เม.ย. รับซื้ออยู่ที่ บาทละ 26,350 บาท ขายออกบาทละ 26,450 บาท (ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ)

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเป็นเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ที่หลุดระดับ 91 มาเคลื่อนไหวที่ 90.832 ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐ หลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาได้อ่อนค่าลงมาเล็กน้อย แต่ได้ดีดตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์มาแตะที่ 1.563 % กดให้ราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุ $1800ไปได้

นอกจากนั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%  นอกจากนี้ยังมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ PEPP ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมี.ค.2565

อีกประเด็นที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐโดยตรงคือ กรณีที่  “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีแผนที่จะปรับเพิ่มภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) สูงถึง 43.4% สำหรับชาวอเมริกันที่ร่ำรวย ส่วนผู้ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์จะปรับการจัดเก็บภาษีเพิ่มภาษีสูงถึง 39.6% จากปัจจุบันเรียกเก็บที่ระดับ 20%

รวมถึงการปรับลดเงินคริปโตสกุลหลักร่วงลงอย่างรุนแรง หลังมีข่าวลือว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเข้ามาดูแลเรื่องการฟอกเงินจากการซื้อขายเงินสกุลคริปโต ทำให้เกิด panic sell และความผันผวนที่ผิดปกติของราคาเงินบางสกุลในหลายแพลตฟอร์ม ทั้งนี้ บิตคอยน์ได้ร่วงหลุด 50,000 ดอลลาร์ ลงมาเคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 49,385 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้เคยทำจุดสูงสุดที่เกือบ 64000 ดอลลาร์ เมื่อช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมมา 

ส่วนประเด็นที่ต้องจับตามองในสัปดาห์หน้า คือการประชุมนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย.ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปจนกว่าจะมีความชัดเจนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐนั้นเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราร้อนแรงที่สุดในรอบเกือบ 40 ปีก็ตาม

ทั้งนี้ เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นใกล้ระดับ 0% มาตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มต้นแพร่ระบาด และเฟดยังคงซื้อสินทรัพย์รายเดือนขั้นต่ำ 1.20 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้งบดุลบัญชีของเฟดเพิ่มขึ้นสู่ระดับเกือบ 8 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 เท่าแล้วจากระดับนับตั้งแต่วิกฤตโรคโควิดระบาดได้เริ่มขึ้น

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldKUB.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.