News Digest :ราคาทองคำไปต่อขยับแตะ $1,853 สูงสุดในรอบ 3

1,288

News Digest : ย่อยข่าวร้อนๆ ในแวดวงทองคำ ประจำวันที่ 17 พ.ค. 64 ราคาทองคำเช้านี้ขยับแตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือนที่ $1,853 ซึ่งในภาพรวมทิศทางการเคลื่อนไหวของราคายังเป็นเชิงบวก หลังจากแนวต้านของราคาทองคำได้ขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง  (ดูกราฟราคาทองคำ) แต่จะต้องมาติดตามว่า ราคาทองคำจะสามารถปักหลักเหนือระดับ $1850 ได้ หรือไม่  เพราะจะทำให้ภาพรวมในระยะสั้นปรับเป็นขาขึ้น และในสัปดาห์นี้ต้องรอดูผลกระทบจากการประกาศตัวเลขศก.สหรัฐ ในช่วงที่ผ่านมาที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะเรื่องของเงินเฟ้อ และตัวเลขแรงงาน ซึ่งกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง

ส่วนราคาทองคำในประเทศไทยเอง ดูเหมือนจะได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่พุ่งสูงขึ้น โดยวันนี้แตะเกือบหลักหมื่นคน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ต้องขังก็ตาม ซึ่ง ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ (อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม..)  มองว่าในช่วงนี้ราคาทองคำในประเทศยังดูมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า เนื่องจากได้เรื่องของค่าเงินบาทมาช่วย โดยราคาทองคำสามารถยืนเหนือบาทละ  27,000 บาทได้ หากราคา goldspot ขึ้นไปแตะ ระดับ 1,875 ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปแตะระดับ 28,000 บาทได้ไม่ยาก

ไปดูมุมมองการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ

YLG  มองว่า ราคาทองคำยังคงพยายามขึ้นไปทดสอบ 1,857-1,859 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้อาจมีแนวโน้มอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,838 ดอลลาร์ โดยประเมินแนวรับถัดไปโซน 1,822 ดอลลาร์ แต่ถ้ายืนได้จะเกิดแรงซื้อเข้ามาอีกครั้ง แนะนำการลงทุนอาจต้องเป็นไปในลักษณะรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือหากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,857-1,859  ดอลลาร์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป

GT Gold  มองว่า ราคาทองปิดสัปดาห์ชนแนวต้าน 1,845 ดอลลาร์ พอดี ทำให้เช้านี้เปิดมาพยายามบวกต่อ แต่ RSI ขึ้นถึงระดับ overbought แต่ไม่มีสัญญาณ bearish divergence จึงคาดว่าราคาจะพักตัวแค่สั้น ๆ โดยมีเส้น MA ขึ้นมาเป็นแนวรับรอส่งให้ทะลุ 1,845 ดอลลาร์ กลยุทธ์วันนี้ แบ่งไม้ซื้อสะสมเมื่อราคาย่อลง และแบ่งไม้ซื้อตามเมื่อราคาทะลุผ่าน 1,848-1,850 ดอลลาร์

SCT Gold ระบุ  ภาพรวมเงินเฟ้อสหรัฐเป็นตัวบีบให้คนซื้อทองมากกว่าจะมาเล่นชอร์ต ทำให้ราคาทองค่อยๆ ลอยตัวขึ้นบวกข่าวความตึงเครียดยิงถล่มในปาเลสไตน์ ทำให้ราคาทองพักฐานไม่แรงและอาจเตรียมขึ้นต่อโดยเฉพาะหากยืน $1,850 ได้สัก 1-2 วัน สัปดาห์นี้ไม่มีตัวเลขสำคัญ คาดว่านักลงทุนคงจะรอฟังสมาชิกเฟดที่ทยอยมาแถลงมุมมองและค่าเงินสหรัฐฯที่ย่อลงมาค่อนข้างมากกลยุทธ์การลงทุน แนะนำยังแนะทางซื้อ ไม่ถือชอร์ต และถ้าราคายืน $1,850 ได้ก็น่าจะไปต่อ นักลงทุนระยะสั้นแนะทางซื้อ และลดพอร์ตถ้าราคาต่ำกว่า $1,830 และหนีที่ $1,818

HuaSengHeng มองว่า แนวโน้มราคาทองคำคาดจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,845 ดอลลาร์ได้ ทั้งนี้คาดจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา เนื่องจากเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน แต่ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไป 1,870 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,820 ดอลลาร์ และ 1,810 ดอลลาร์

ไปดูข่าวความเคลื่อนไหวอื่นๆ

ความผันผวนไร้ทิศทางในตลาดเงินคริปโต โดยเฉพาะการเผยความเห็นส่วนตัวต่อสาธารณะบ่อยครั้งของ อีลอน มัสค์  ล่าสุด เขาได้ตอบกลับทวิตข้อความว่า อาจทำการเทขายบิตคอยน์ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากสัปดาห์ก่อนเพิ่งกลับคำเป็นจะไม่รับชำระค่ารถเทสล่าด้วยบิตคอยน์ ดูเหมือนกำลังส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาพัก  เพื่อรอดูทิศทางในตลาดนี้

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาด นอกจากนี้เงินบาทยังได้รับผลกระทบทางลบจากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 31.25 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์

ประธานสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว ระบุ รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาถึงความวิตกเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนสินค้าโภคภัณฑ์ และภาวะเงินเฟ้อ โดยอาจจะทบทวนปรับลดภาษีนำเข้า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ สหรัฐเป็นประเทศผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลก โดยนำเข้าสินค้ามูลค่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 และการปรับลดภาษีนำเข้าเพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนสินค้าและราคาที่ระดับสูงนั้น อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยในปัจจุบันสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนโดยเฉลี่ย 19.3% และเก็บภาษีนำเข้า 3% จากสินค้าของประเทศอื่นๆ

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldKUB.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.