News Digest : ทองคำยืนเหนือ $1,900 เล็กน้อย แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐดีด ด้าน SPDR ยังขายออก

1,152

News Digest : ย่อยข่าวร้อนๆ ในแวดวงทองคำ ประจำวันที่ 29 พ.ค. 64 มาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเช้านี้ ราคาทองคำได้ขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่เมื่อคืนนี้ราคาทองคำสามารถทะลุขึ้นมาปิดตลาดเหนือ $1900 ได้

โดยเช้านี้ราคาทองคำทำจุดสูงสุดที่ $1906 ดอลลาร์ ถือเป็นการปิดเดือน พ.ค.ที่งดงาม โดยราคาได้เปิดตลาดเดือน พ.ค.ที่ $1769 จนถึงปัจจุบันราคาเพิ่มขึ้นกว่า $130 (ดูกราฟราคาทองคำ) ทั้งนี้ เป้าหมายต่อไปคือ $1910  $1917 และ$1921 ขณะที่ฝั่งแนวรับ จะอยู่ที่ $ 1896  $1890 และ$1886

Edward Moya senior market analyst OANDA ให้ความเห็นกับ Kitco news ว่า แม้ว่าเดือน พ.ค.ราคาทองคำโดยรวมจะปรับสูงขึ้น แต่อุปสรรคสำคัญสำหรับทองคำในสัปดาห์หน้า อาจเป็นข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่จะประกาศตัวเลข NFP ซึ่งหากตัวเลขออกมาดีอาจจะดึงให้ ราคาทองคำลดลง 30 ถึง 40 ดอลลาร์

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ค.จะเพิ่มขึ้น 700,000 ตำแหน่ง จากเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 266,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 1,000,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.1% สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าอาจลดลงสู่ระดับ 5.8% ขณะที่เดือนพ.ค.คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงเหลือ 5.9%

ส่วนความเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR ได้ขายทองคำออกมาอีก 0.87 ตัน ที่ระดับราคา 1,904 ดอลลาร์ ทำให้เดือน พ.ค. SPDR มียอดการซื้อทองคำเข้าเพิ่มขึ้น รวม 26.17 ตัน และปีนี้เหลือยอดติดลบประมาณ 127.53 ตัน ขณะที่ยอดถือครองทองคำของ SPDR รวม 1,043.21  ตัน (อ่านข่าวความเคลื่อนไหว SPDR ก่อนหน้า)

ขณะที่ สัญญาทองคำตลาด COMEX  สัญญาส่งมอบเดือนส.ค. เมื่อคืนนี้ ปิดที่ 1,905.3 ดอลลาร์  เพิ่มขึ้น 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.36% สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. และสัญญาทองคำยังเพิ่มขึ้น 1.5% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 7.8% ในเดือนพ.ค.

โดยเมื่อคืนนี้สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจาก ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.6% จากระดับ 0.5% ในเดือนมี.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 3.6% จากระดับ 2.3% ในเดือนมี.ค.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานในเดือนเม.ย. ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พบว่าเพิ่มขึ้น 0.7% เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค.ที่อยู่ในระดับ 0.4%  และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% และเมื่อเทียบรายปี

ดัชนี PCE พื้นฐาน ในเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.1% จากระดับ 1.9% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9%

ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐ ในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคล ในเดือนเม.ย.ลดลง 13.1% หลังจากพุ่งขึ้น 20.9% ในเดือนมี.ค.

ส่วนผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ค. ร่วงลงสู่ระดับ 82.9 หลังจากแตะระดับ 88.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐในเดือนมี.ค. 2563

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldKUB.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.