ปธ.เฟด ประกาศดันดอกเบี้ยแตะ 5.1% พร้อมตรึงดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2567

มาติตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในเดือน ธ.ค. ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ( 15 ธ.ค.) ตามเวลาในประเทศไทย โดยที่ประชุมของเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี

และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในปีนี้ รวม 4.25%  โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง , 0.50% จำนวน 2 ครั้ง และ 0.75% จำนวน 4 ครั้ง

ส่วนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 เพื่อจับตาดูผลกระทบของการคุมเข้มนโยบายการเงินที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีหน้า โดยระดับดังกล่าวเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2550 ก่อนที่จะสิ้นสุดวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ก่อนที่เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 1.0% ในปี 2567 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงสู่ระดับ 4.1% ในช่วงสิ้นปีดังกล่าว และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1.0% ในปี 2568 สู่ระดับ 3.1% ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับตัวสู่ระดับ 2.5%

ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม โดยระบุว่าเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายดึงเงินเฟ้อกลับมาที่ระดับ 2% และขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดให้ความสำคัญกับการใช้นโยบายการเงินที่มีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายดังกล่าว พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่สามารถหลีกเลี่ยงการถดถอยได้