เรื่องราวระหว่างทองคำกับคริบปโตเคอเรนซี่ โดยเฉพาะบิทคอยน์ ยังเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันในหลากหลายแง่มุมทั้งในแวดลงของนักลงทุน ความสัมพันธ์ในเชิงการเคลื่อนไหวของราคา การทิศทางและอนาคตของสินทรัพย์ทั้ง 2 บรรดาขาในในแวดวงการลงทนต่างก็มองต่างกันไป หลายคนเงินปรามาสบิทคอยน์ แต่สุดท้ายก็หันมาลงทุน บางคนก็ยังเชื่อมั่นใจทองคำ บางคนก็มองว่ามันเป็นสินทรัพย์ในโลกเก่าไปแล้ว หรือบางคนเรียกว่าเป็นดิจิตัลโกลด์ด้วยซ้ำไป
ที่ผ่านมา Kitco.news ได้นำเสนอการตอบโต้กันทางทวิตเตอร์ของนักลงทุนชื่อดัง ในประเด็นอนาคตของทองคำและบิทคอยน์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแดงคือ Mark Cuban หนึ่งในมหาเศรษฐีชื่อดังของอเมริกา ที่เติบโตมาจากการบุกเบิกธุรกิจในโลกไอที ก่อนจะมาโด่งดังในฐานะเจ้าของทีมบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ อย่าง Dallas Mavericks นอกจากนั้นยังไม่นักลงทุนในหลากหลายธุรกิจ โดยทาง Mark Cuban ได้ถือหางในฝั่ง crypto
ส่วนฝ่ายน้ำเงินคือ Peter Schiff CEO ของ Euro Pacific Capital นักวิจารณ์ bitcoin ใน Twitter
#MarkCuban ได้กล่าวทักทายว่า ทองคำได้ตายไปแล้ว และขอให้ Peter ก้าวต่อไป พร้อมระบุว่าเมื่อครั้งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับBitcoinในครั้งแรก ก็ไม่คิดว่าจะนักลงทุนที่ฉลาดคนไหนจะโง่พอที่จะมาซื้อ Bitcoin ซึ่งจนถึงขณะนี้ต้องยอมรับว่าตัวเองคิดผิด
สาเหตุที่ Mark Cuban ได้ ชี้ให้เป็นว่าทองคำมันตายไปแล้ว เพราะมันจะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พร้อมตั้งคำถามว่าเราต้องการเครื่องประดับทองคำจริงๆ หรือ ซึ่งทองคำสามารถทำเป็นแหวนให้คุณได้ก็จริง แต่บิทคอยน์ หรือ คริปโตเคนเรนซี่ ตัวอื่นๆ เป็นเทคโนโลยีที่สามารถแลกเปลี่ยนมูลค่าได้ และสามารถขยายเป็นธุรกิจได้
Mark Cuban ยังระบุต่อไปว่า #crypto ที่ถูกสร้างขึ้นมาในวันนี้ ได้พิสูจน์แนวคิดและยืนยันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ยังคงดีขึ้นต่อเนื่อง ราคาถูกลง รวดเร็วขึ้น และในอนาคตจะมีแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ และอาจเป็นสิ่งที่แทนที่สิ่งที่เรารู้จักกันในชื่อ crypto ในปัจจุบัน แต่ทองคำ จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นั่นคือเหตุผลที่มันจะตายในฐานะการเป็นเครื่องรักษามูลค่า หรือ SOV [store of value] “
Mark Cuban ยังตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ว่า การสร้าง crypto เป็นการพลังงานและเทคโนโลยีอย่างสิ้นเปลืองว่า ทองคำถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีเช่นกัน คนที่ทำเหมืองพยายามใช้เทคโนโลยี ในการค้นหา ในการขุด และในการสกัด ใครทำได้ดีกว่าก็จะได้รับประโยชน์สูงสุด เช่นเดียวกับ Crypto

ขณะที่ #PeterSchiff ได้ตอบโต้โดยยืนยันว่าทองคำเป็นโลหะที่มีประโยชน์สูง และมีประโยชน์มากที่สุดในตารางธาตุ และทองคำยังทำหน้าที่เป็นเงินหรือสินทรัพย์ที่ดีที่สุด ในทางกลับกันการขุด Bitcoin ที่เป็นการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เป็นการแข่งขันที่สิ้นเปลืองพลังงาน และ bitcoin ไม่สามารถแทนที่ทองคำในฐานะที่เป็นเครื่องรักษามูลค่า
ส่วนสาเหตุที่ทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อเร็ว ๆ นี้ Peter Schiff ระบุว่าเพราะนักลงทุนมั่นใจว่าเฟดสามารถควบคุมปัญหาเงินเฟ้อได้
ทั้งนี้ Mark Cuban ไม่ได้เป็นนักลงทุนคนเดียวที่ให้การสนับสนุนคริปโตในเร็วๆ นี้ เพราะยังมี Kevin O’Leary ประธาน ETF ของ O’Shares ที่เมื่อสองปีที่ผ่านมาเรียก bitcoin ว่าขยะแต่ได้ประกาศว่าจัดสรรเงินลงทุน 3% ของพอร์ตการลงทุนให้กับ bitcoin และถ้ายังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ทาง อีลอน มัสก์ จากเทสลาร์ รวมถึงสถาบันการเงินชั้นนำหลายๆ แห่ง ก็ได้ประกาสเข้ามาร่วมวงการลงทุนในคริปโต โดยเฉพาะ bitcoin และเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ ที่ยังคงจดๆจ้องๆว่าจะเข้ามาลงทุน หรือเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์นี้หรือไม่
Peter Schiff ได้กล่าวทิ้งท้านในเชิงเหน็บแนมว่า ฟองสบู่ bitcoin กำลังใกล้จะแตก หลัง Mark Cuban และ O’Leary ได้ก้าวเข้าสู่ crypto ซึ่งถือเป็นสัญญาณสำคัญ และการหมุนเวียนจากทองคำที่ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ของคนโง่ กำลังจะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
..จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ความคิดของฝ่ายใดถูก หรือผิด เพราะที่ผ่านมา ถ้าเราไปดูประวัติของ Mark Cuban เอง ก็ไม่ธรรมดา เค้าร่ำรวยมาจากการเข้าเฮดหุ้นของ Yahoo ที่ถูกมองว่าสูงเกินจริงและสุดท้ายก็ลดลงมาอย่างรุนแรงตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งคิวบานได้กำไรไปมหาศาล
…ในส่วนของตลาดคริปโต ..นักวิคราะห์หลายคนก็มองว่า..มักจะไหลไปตามกระแสของอินฟูแลนเซอร์..ซึ่งจะเห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาเมื่อมีคนดังหรือบริษัทชื่อดังออกมาเชียร์ให้ลงทุนใน bitcoin..ราคาก็จะพุ่งขึ้นทันที..แต่เมื่อกระแสเชียร์เพลาๆ ลง ..ราคา bitcoin ก็จะค่อยๆ ลดลง และนักวิเคราะห์หลายคนต่างก็มองว่าราคาในคริปโตหลายตัวก็ สูงเกินกว่าความเป็นจริงมาก…และพร้อมมี่จะระเบิดออกมา
แต่ในฝั่งของทองคำเองก็ ประสบปัญหาไม่ใช่น้อย หลังถูกสินทรัพย์อื่นๆ ดาหน้าถล่มจนไม่สามารถดันราคาให้กลับขึ้นไปยินในระดับสูงได้..แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเรื่องของเงินเฟ้อจะทำให้ราคาทองคำกลับมาผงาด..แต่จนถึงวันนี้ก็ยังต้องรอการพิสูจน์
..เพราะกลุ่มคนที่เข้ามาควบคุมเรื่องนโยบายการเงินการคลังของสหรัฐในชั่วโมงนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเคยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้วมากมายและในปัจจุบันก็มีเครื่องมือและอาวุธที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นมากมาย…และในปัจจุบันก็ยังไม่แน่ใจว่า “ทองคำ” จะเป็นสินทรัพย์โปรดของอเมริกาหรือไม่
..คงต้องติดตามอนาคตของทั้ง 2 สินทรัพย์นี้กันอย่างใกล้ชิด..
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.