News Digest :ราคาทองคำยังมีแรงบวก จับตาแนว $1,850 หากไม่ทะลุอาจถูกเทขายแรง

News Digest : ย่อยข่าวร้อนๆ ในแวดวงทองคำ ประจำวันที่ 10 พ.ค. 64 เช้านี้มีแรงขาย goldspot ออกมาเล็กน้อยหลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 80 ดอลลาร์ จากราคาเปิดที่แถว $1,767 มาทำจุดสูงสุดที่ $1,843 ก่อนมาปิดตลาดที่ $1,832 ดอลลาร์ โดยราคาเช้านี้ยังขยับไซด์เวย์แนว $1830 (ดูกราฟราคาทองคำ)

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงบาทละ 700 บาท โดยราคารับซื้อราคาแรกในวันที่ 3 พ.ค.อยู่ที่บาทละ 26100 บาทขณะที่ราคารับซื้อราคาสุดท้ายของวันเสาร์ที่ 8 พ.ค.อยู่ที่ 26,800 บาท ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ปรับขึ้นอีกบาทละ 100 บาท  ทำให้ราคาขายออกแตะบาทละ 27,000 บาทแล้ว(ดูตารางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ)

ทั้งนี้ YLG  มองว่า ราคาปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแล้วระดับหนึ่ง ประกอบกับมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง แต่หากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,815 ดอลลาร์ แสดงว่าราคาพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้และมีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 1,843-1,847 ดอลลาร์ แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา ซึ่งหากผ่านแนวต้านแรกได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,860 ดอลลาร์ กลยุทธ์วันนี้ เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,815 ดอลลาร์ได้และให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,843-1,847 ดอลลาร์ หากผ่านได้ถือสถานะซื้อต่อ

ขณะที่ GT gold  มองว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสู่เป้าหมาย 1,875 ดอลลาร์ เพื่อไปให้สุดขาขึ้นด้วยรูป W-shape โดย RSI ให้สัญญาณ bearish divergence แต่มีการยันไว้ไม่ให้หลุดระดับ 50 ชี้ว่าการปรับฐานสั้น ๆ จะขึ้นต่อด้วยแรงซื้อจำนวนมาก โดยทิศทางราคาทองคำวันนี้คาดยัง  บวกต่อเนื่อง

ส่วน SCT Gold ชี้ภาพรวมตลาดทองคำได้พลังบวกจากทั้งข่าวและสัญญาณเทคนิคที่ทะลุยืน $1800 ได้จึงทำให้โมเมนตั้มตลาดน่าจะไปต่อ แต่จะมีความผันผวน และต้องระวังหากราคาทองไม่ผ่าน $1850 ด่านต่อไปอาจมีการขายทำกำไรชุดใหญ่ลงมา กลยุทธ์การลงทุนวันนี้  คนติดชอร์ตไม่ควรมี ฝั่งซื้อเน้นรอย่อซื้อทองเข้าพอร์ต เพื่อเทรดระยะสั้น โดยวางจุดหนีที่ $1798 คาดว่าสัปดาห์ถ้าทองไม่ลงหลุด $1800 ใน 3 วันทำการ ทองจะไปต่อ $1850 และ1880

ไปดูข่าวความเคลื่อนไหวอื่นๆ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกรายงานเสถียรภาพทางการเงินรายครึ่งปี โดยระบุราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นสูงตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวตามปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการประเมินมูลค่าของสินทรัพย์บางรายการสูงขึ้นเมื่อเทียบกับบรรทัดฐานในอดีต ส่วนในอนาคตราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก อาจสร้างแรงกดดันต่อระบบการเงินในตลาดเกิดใหม่และบางประเทศในยุโรป และ หากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ทั้งนี้มีรายงานว่ารายงานดังกล่าวทำให้กระแสการตีกลับในตลาดเงิน-ตลาดทุน ด้วยความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อเสี่ยงต่อการเกิดภาวะฟองสบู่แตกในอนาคต

ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ ระบุ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนเม.ย.ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก ทำให้เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในเร็วๆนี้  นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานเดือน เม.ย.ที่ต่ำกว่าคาด มีสาเหตุจากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน หลังจากที่รัฐต่างๆผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง  นอกจากนี้ยังมีสาเหตุจากการที่ผู้ปกครองยังคงต้องอยู่บ้านดูแลบุตร และการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการส่งเช็คเงินสดไปให้ผู้ที่ตกงาน ก็ได้ลดแรงจูงใจในการเข้าตลาดแรงงานในระยะนี้ โดยคาดว่าการจ้างงานจะกลับสู่ภาวะปกติในเดือนก.ย. ซึ่งมาตรการเยียวยาของรัฐบาลมีกำหนดสิ้นสุดในช่วงเวลาดังกล่าว

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่า ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าตลาดอย่างมาก แต่ทั้งนี้เงินบาทยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในประเทศที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 31.0 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 31.20 บาทต่อดอลลาร์

ซีอีโอของ “โมเดอร์นา” คาดการณ์ว่า ในอีก 6 เดือนข้างหน้า จะมีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากประเทศแถบซีกโลกใต้กำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว โดยประชาชนอาจต้องรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีก 2 โดส เนื่องจากไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก  และเชื่อว่าไวรัสโควิด-19 จะไม่หายไปไหน

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldKUB.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น