ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบ 1,823-1,770 ดอลลาร์ โดยทองคำได้รับปัจจัยบวกเริ่มต้นมาจากการประกาศตัวเลข CPI ของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์เกือบ 0.2% คือ คาดไว้ 7.3% แต่ประกาศ 7.1% ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ทำ High ที่ 9.1% เมื่อกลางปี เป็นเหตุให้ทองคำดีดขึ้นต่อเนื่องรุนแรงจากระดับ 1,785 ดอลลาร์ ถึง 1,824 ดอลลาร์
ส่วนหนึ่งเพราะตลาดต่างคาดกันต่อว่าการประชุมของเฟดในวันรุ่งขึ้น เฟดน่าจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.5% สุดท้ายก็เป็นไปตามคาด ตลาดส่วนใหญ่รับรู้กันก่อนล่วงหน้ามาแล้ว ทั้งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.5% ขณะที่ Dot plot ที่แสดงให้เห็นว่า Nominal rate ปีหน้าจะสูงสุดเพียง 5.1% เท่านั้น
โดยเฟดยังคงให้น้ำหนักกับการจัดการอัตราเงินเฟ้อเป็นงานหลัก และคาดว่าจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใดอย่างน้อยจนกว่าจะถึงปี 2024 แต่กลับจะขึ้นอีกนิด และคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเช่นนั้นต่อไปตลอดปี 2023 เพื่อให้แน่ใจว่าเฟดสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายได้
จึงเป็นเหตุให้ทองคำเผชิญแรงขายให้ร่วงลงกลับมาอีกครั้งและย้ำฐาน 1,770 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดหลับมาปิดที่ระดับ 1,793 ดอลลาร์ ในที่สุด

ปัจจัยที่น่าติดตามในช่วงสัปดาห์นี้
ช่วงสัปดาห์นี้ไม่มีปัจจัยใดที่น่าติดตามเป็นกรณีพิเศษ จึงต้องกลับมาพิจารณาจากปัจจัยทางเทคนิคเป็นสำคัญ
ภาพรวมทองคำ TF รายเดือนยังคงรักษาทรงขาขึ้นของทองคำระยะกลางได้เป็นอย่างดี ขณะที่ TFรายสัปดาห์ การปิดของแท่งเทียนเป็นลักษณะ Long-Legged Doji ทรงไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อ
สอดคล้องกับแท่งเทียน TF รายวันที่ยังคงเลี้ยงตัวอยู่ต่ำกว่า Trendline ของ Rising Wedge ของสัปดาห์ก่อนหน้า แสดงว่าหากทองคำไม่สามารถทะลุผ่าน 1,814 ดอลลาร์ หรือ 1,830 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ความเสี่ยงในการปรับฐานต่อยังคงมีสูงเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน
BET 1: ย่อตัว Open Long 1,760 ดอลลาร์ / 1,744-36 ดอลลาร์ [SL=1,720 ดอลลาร์]
BET 2: Rebound Open Short 1,801 ดอลลาร์/ 1,826-29 ดอลลาร์ [SL=1,838 ดอลลาร์ ]
กรอบราคาทองคำไทย :
ราคาทองคำไทยยังอยู่ใน Zone ที่สามารถหาจังหวะเข้าสะสมได้อยู่เช่นเดิม โดยพิจารณาจากแนวรับสำคัญ 29,450 – 350 บาท และบริเวณ 29,200 – 29000 บาท เพื่อลุ้นการดีดตัวขึ้นในระยะกลางต่อไป
ขอบคุณข้อมูล Shining Gold Bullion
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.