เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปิดลดลง 34.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ใน Hawkish กว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่า Terminal Rate มีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงกว่าที่กรรมการเฟดคาดไว้
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน รวมไปถึงดันให้บอนด์ยีลด์ 2 ปีพุ่งเหนือ 5% และกลับมาฉุดราคาทองคำให้ร่วงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย (MA) 10 และ 21 วัน ทำจุด ต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1,811 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทั้งนี้ราคาทองคำหลังจากมีแรงขายออกมาอย่างชัดเจนมากขึ้น อาจเกิดการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นแต่การลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวัง เพราะหากการดีดตัวขึ้นจำกัดไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,824-1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมีโอกาสที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงได้อีก
โดยแนวรับประเมินบริเวณ 1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากรับไม่อยู่แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับขณะที่แนวต้านนั้นยังมีลุ้นที่ 1,818-1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (แนวต้านระยะสั้น)

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
อาจเปิดสถานะขายหากดัชนีไม่มีการทะลุแนวต้าน แต่เป้าหมายทำกำไรอาจสั้นหน่อยที่ 1,804 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือถ้ารับความเสี่ยงได้มากอาจเสี่ยงถือสถานะขายต่อไป แต่ถ้ามีการดีดตัวขึ้นผ่านบริเวณแนวต้าน 1,841 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สถานะขายควรตัดขาดทุน
GOLD Sideway Down
กลยุทธ์ Short
GOLD SPOT
แนวต้าน 1,824 /1,841 และ1,858 ดอลลาร์
แนวรับ 1,804 /1,784 และ 1,765 ดอลลาร์
SL ที่ 1,841 ดอลลาร์
ทองคำ 96.5 คำนวณที่เงินบาท 35.09
แนวต้าน 30,350 /30,600 และ30,900 บาท
แนวรับ 29,950/29,650และ29,300 บาท
SL ที่ 30,600 บาท
ขอบคุณข้อมูล YLG
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.