GoldFocus (16/03) : ราคาทองคำยังยืนเหนือ $1734 ไม่ได้ คาดไซด์เวย์รอผลประชุม FED

GoldFocus (16/03) : ราคาทองคำสามารถยืนเหนือ ระดับ 1,720 ดอลลาร์มาได้ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,737 ดอลลาร์ แต่ยังถูกเทกกลับมาเคลื่อนไหวแถว 1,734ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำได้พยายามยืนเหนือแนวนี้มาแล้ว 3 รอบ ต้องดูว่าจะทำสำเร็จหรือไม่

 เป้าต่อไปก็คือ 1,748 ดอลลาร์ และ 1,765 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวต้านสำคัญในครั้งนี้ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ณ จุดนี้เป็นแนวรับหลัก เพราะเป็นเส้น FIBO 50 หากทะลุไปได้ ก็อาจจะเห็นขึ้นไปเทสต์ 1,800 ดอลลาร์ ได้อีกรอบ แต่คงจะต้องรอดูว่าผลประชุมเฟดที่จะออกมาในช่วงกลางคืนวันพุธจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องของ การดูแลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี และเงินเฟ้อ

ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากต่างประเทศคาดการณ์ว่าไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ ของไทย ก็ยังมองว่าอาจจะมีการขยับบ้างเนื่องจากทาง ECB ได้มีแอคชั่นใน 2  ประเด็นนี้มาบ้างแล้ว(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..) และในเวลาไล่เลี่ยกันก็จะมีการประชุมเศรษฐกิจในฝั่ง EU ด้วย ก็ต้องมาดูว่าทีประชุมจะว่าอย่างไร และจะส่งผลถึงการตัดสินใจของเฟด หรือไม่

ไปดูมุมมองการลงทุนของโบรกเกอร์ทองคำ และมุมมองของนักวิเคราะห์จากเพจเกี่ยวกับการลงทุนทองคำในประเทศไทย ว่าจะโฟกัสการลงทุนทองคำในวันนี้อย่างไรบ้าง

YLG :การเคลื่อนไหวราคาทองคําช่วงเช้าวันอังคารของตลาดเอเชีย ได้แกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,729 – 1,734 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับตัวขึ้นของราคาทองคําเป็นไปอย่างจํากัด ถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์  ขณะที่นักลงทุนในตลาดระมัดระวังก่อนการประชุมของของธนาคารกลางต่างๆ นําโดยการประชุม ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคําปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,721-1,719 ดอลลาร์ อาจมีแรงดีดกลับสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอหรือมีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที 1,740-1,744 ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุน  รอจังหวะการเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,721-1,719 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากหลุด 1,707 ดอลลาร์ลงมา และสําหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนําทยอยแบ่งปิดสถานะทํากําไรโซนราคา 1,740-1,744 ดอลลาร์ขึ้นไป

Gt Gold : ราคาทองคำกลับขึ้นมาทรงตัวใกล้แนวต้าน คาดว่าจะแกว่งแคบรอประเมินผลประชุม Fed ก่อน ขณะที่ดัชนี RSI แกว่ง sideway down ขณะที่ราคาทองคำแกว่งแคบลง และเส้น MA ลู่เข้าหากัน แนวโน้มระยะสั้นจึงเป็นการบีบกรอบแคบ 1,725-1,740 ดอลลาร์ ก่อนเลือกทาง กลยุทธ์การลงทุน  วันนี้นั่งดู พรุ่งนี้รอ follow

InterGold : ราคาทองคำวันนี้ออกข้างทำกรอบแคบ ที่ 1,720-1,735 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลล่าปรับตัวแข็งเล็กน้อย ตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังคงในทิศทางบวก และในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสนี้จะมีการแถลงผลประชุมเฟด ต้องจับตาดูว่าเฟดมีมุมมองต่อเงินเฟ้อ และตลาดการจ้างงานอย่างไรหลังจากนี้ ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวนึงที่จะทำให้เห็นภาพรวมของการเงินโลกในปัจจุบัน ในทาง Technical ราคาทองคำย่อมาเป็นสัดส่วนฟีโบนักชีที่ 38.2% และทำกรอบแคบที่ 1,720-1,735 ดอลลาร์ โดยราคาทองเริ่มทำ Pattern Ascending triangle โดยหากราคาสามารถเบรคกรอบแคบที่ 1,735 ดอลลาร์ ได้ มีโอกาสที่ราคาทดสอบ 1,760 ดอลลาร์ จาก Pattern ดังกล่าว กลยุทธ์การลงุทนวันนี้ เปิดหน้าซื้อหากราคาเบรค 1,735 ดอลลาร์ หรือรอราคาทองคำย่อตัวเข้าเสี่ยงซื้อที่ 1,725 ดอลลาร์ โดยสามารถขายที่ 1,740 และ 1,760 ดอลลาร์ ได้

SCT Gold :  ภาพรวมราคาทองคำมีทิศทางบวกหลังราคาพยายามยืนตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ ทุกเส้นและ MACD รายวันตัดขึ้น ส่วนค่าเงินและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็เคลื่อนไหวออกข้างเช่นกัน นักลงทุนจับตาดูว่าคืนพรุ่งนี้ ปธ.เฟด จะแก้ไขปัญหา BOND YIELD สูงและจะมีมาตรากระตุ้นอะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ หลังเฟดไม่กล้าทำอะไรตั้งแต่ได้ผู้นำคนใหม่ หากเฟดยังตีหน้าเดิม ราคาทองก็คงถูก BOND YIELD กดดันต่อไป กลยุทธ์การลงทุน แนะทางซื้อเมื่อราคาทองคำย่อแล้วขายช่วงดีดตัว หรือจะซื้อหรือถือทองไปก่อนน่าจะได้เปรียบมากกว่าเล่นทางช็อต เพราะค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวแดนอ่อนค่า

GCAP Gold : ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ ปิดตลาดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน  ทำให้สัญญาณระยะสั้นเป็นบวก ตลาดได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ฯ  และการคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้เงินเฟ้อขยายตัว อาจส่งผลในด้านบวกต่อราคาทองคำในช่วงนี้  กลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไรทิศทางขาขึ้น

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldKUB.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ/หรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น